#อารมณ์ขันนั้นเรียกเสียงหัวเราะและความชื่นบาน
#และสร้างพลังบวกขึ้นให้แก่คนรอบข้างและตัวเราเอง
สมัยอยู่มหาวิทยาลัยปี 1
ครูได้พบเพื่อนใหม่มากมาย
และได้ค้นพบว่าเพื่อนหลายๆคนมีเสน่ห์น่าเข้าใกล้
เราชอบอยู่ด้วย
ซึ่งตอนนั้นคิดว่าย่อมไม่ใช่หน้าตาที่ดึงดูดแน่ๆ
ตอนนั้นยังนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร
พอเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน
ก็ได้พบเพื่อนร่วมงานเยอะแยะ
และได้เห็นนิสัยบางอย่างที่ทำให้คนบางคนนั้นน่าอยู่ใกล้ด้วย
พอมาเป็นครูสอนว่ายน้ำ
ก็แอบสังเกตพ่อแม่ผู้ปกครองของพวกเรา
ว่ามีวิธีเลี้ยงดูลูก และมีปฏิกิริยาต่อสถานการณ์เดียวกันแตกต่างกัน
อย่างเช่นลูกๆวิ่งเล่นแล้วหกล้ม
พ่อแม่มักมีวิธีรับมือไม่เหมือนกัน
เราจะไม่ตัดสินว่าใครมีวิธีที่ถูกหรือผิด
แต่สิ่งที่เราเห็นคือ
หลายๆเรื่องในชีวิต
แม้หนักก็จะกลายเป็นเบา
แม้ทุกข์หนักก็จะกลายเป็นทุกข์น้อยลง
เพราะมีสิ่งหนึ่งที่มาช่วยคานน้ำหนักไว้
นั่นก็คือ
การเป็นคนมีอารมณ์ขัน
#มหาตมะคานธีเคยกล่าวไว้ว่า
"If I have no sense of humor,I would long ago have committed suicide"
"#ถ้าผมไม่มีอารมณ์ขัน #ผมอาจฆ่าตัวตายไปนานแล้วก็ได้"
ทำไมการมีอารมณ์ขันจึงสำคัญนัก
เด็กที่มีอารมณ์ขันจะเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนฝูง
เป็นเพื่อนกับคนอื่นได้ง่าย
พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็เข้ากับคนได้ไม่ยาก
ไม่เป็นโรคซึมเศร้า ไม่เก็บกด
เมื่อเติบใหญ่ลูกจะสามารถเผชิญหน้าและแก้ไขปัญหาชีวิตได้ดี
เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ เข้าใจใช้ชีวิตและมองโลกในแง่บวกเสมอ
เด็กที่มีอารมณ์ขันจะมีความมั่นใจและพอใจในตนเอง
เป็นคนมองโลกในแง่ดี อารมณ์ดี
ทำให้เขามีชีวิตที่เครียดน้อยกว่าชาวบ้าน
เพราะคนที่มีอารมณ์ขันนั้นมักมีความคิดต่าง คิดสร้างสรรค์เสมอ เมื่อเจอทุกข์ก็สามารถหาทางออกให้กับใจตัวเองได้
และนี่คือกลไกหนึ่งของจิตใจ
ดังเช่นที่ท่านมหาตมะคานธีกล่าวข้างต้น
เราทุกคนรู้ดีว่าชีวิตท่านผ่านความยากลำบากอย่างหนักหน่วง
แต่เพราะอารมณ์ขันนั่นเอง
ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผ่านเรื่องราวต่างๆมาได้
ครูโรสเคยคุยกับเพื่อนๆทั้งหลายที่มีเสน่ห์น่าเข้าใกล้
ตอนนี้รู้แล้วว่าเพราะพวกเขามีความตลกอยู่ในตัว
มีความฮา พูดง่ายๆว่ามีอารมณ์ขัน
และจากการพูดคุย
พวกเขามักมีพ่อแม่ที่มีความตลก มีอารมณ์ขัน
สิ่งนี้ตรงกับที่นักจิตวิทยาว่าไว้ตรงกันคือ
ลูกเราจะมีอารมณ์ขัน
ก็ด้วยตัวเราพ่อแม่
โดยพ่อแม่เนี่ยแหละ
ที่ต้องมีอารมณ์ขัน
แล้วคุณจะกลายเป็นต้นแบบของเขา
วิธีนี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการปลูกฝังลูกในเรื่องนี้
มีข้อแนะบางอย่างที่พ่อแม่ควรทราบก็คือ
#ไม่ส่งเสริมการล้อเลียนปมด้อยเพื่อน
ถ้าลูกเริ่มตลกแนวนี้ เราพ่อแม่ต้องไม่หัวเราะในสิ่งที่เป็นปมของผู้อื่น
#ไม่ตลกตลอดเวลาเพราะมันจะทำให้ลูกไม่จริงจังกับอะไรเลย
#อยู่กับเด็กต้องหัวเราะง่าย
แม้ว่าเรื่องที่ลูกเล่าให้ฟัง
เราจะได้ยินมาหลายร้อยครั้ง
คุณจงเส้นตื้นกับเรื่องตลกของพวกเขาต่อไป
#ใครที่เส้นลึกมากลองเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตดู
ถ้าเราเส้นตื้นขึ้น
มองโลกเคล้าเสียงหัวเราะ
ลูกจะได้คุ้นเคยกับสิ่งนี้
วันหนึ่งข้างหน้าลูกจะได้ไม่ซึมเศร้า ไม่เก็บกด
และเป็นคนดีมีเสน่ห์น่าเข้าใกล้
สำคัญที่สุดคืออารมณ์ขันทำให้ลูกใช้ชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์เเละเป็นสุข
เหมือนคำกล่าวของใครคนหนึ่งที่ว่า
"Every survival kit should include a sense of humor"
#แปลง่ายๆว่า
#เครื่องมือในการเอาตัวรอดนั้นต้องมีอารมณ์ขันเป็นองค์ประกอบด้วย
ขอบคุณภาพจาก pixabay.com
ขอบคุณข้อมูลจาก Encouraging Your Child's Sense Of Humour www.kidshealth.org