top of page

ในวันหนึ่งที่ครูทุกคนฝึกซ้อมการสอนในสระ
มีทักษะหนึ่งที่เราต้องสอนเด็กๆทุกครั้ง
ตั้งแต่คลาสที่เด็กๆพอเดินได้ เราก็เริ่มสอนสิ่งนี้
นั่นคือ การยืนบนขอบสระ โดยให้เด็กๆเอานิ้วเท้าเกี่ยวขอบสระไว้ตามภาพ
ใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆว่า curl your toes
หรือ curly toes
เราสอนเด็กๆทุกครั้ง จนเด็กๆไม่ลืม
เพราะมันคือการสอนทักษะป้องกันไม่ให้ตัวเองลื่นล้มบริเวณสระน้ำ
และเพื่อไม่ให้หัว หลัง ก้น หรือหน้าแข้งฟาดกับขอบสระ
เพราะเด็กๆมีความซุกซนเป็นธรรมชาติ
ทุกครั้งที่ลงสระ พวกครูเองก็มีความเคยชินกับการ curl your toes ก่อนกระโดดลงน้ำเช่นกัน

#แต่วันนั้นเองที่ครูพลาด
#และพลาดเพราะความประมาทของตนเอง
ในวันนั้นครูกระโดดลงสระ โดยที่ไม่ได้เอานิ้วเท้าเกี่ยวขอบสระก่อน
ผลคือกะระยะผิด หน้าแข้งฟาดกับขอบสระทันที
เลือดออกทันที
ตอนนี้เข้าใจชัดแล้วค่ะว่า
สิ่งที่เขาสอนกันมานั้นก็เพื่อ"ป้องกัน"ไม่ให้เกิดเหตุร้ายนั่นเอง

ประกอบกับมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ครูไม่สบายใจ
คือเรื่องการไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองปล่อยให้เด็กลงสระเอง
แม้ว่าจะอยู่ในช่วงน้ำตื้น
แม้ว่าเด็กจะว่ายน้ำเป็นแล้ว ก็ต้องมีผู้ปกครองอยู่ด้วยเสมอ
การห้ามในข้อนี้เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของเด็กๆ
ครั้งหนึ่งครูได้เตือนผู้ปกครองท่านหนึ่งในเรื่องนี้
ครูได้คำตอบกลับมาว่า
"ทำไม ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูก ชั้นรับผิดชอบเอง"

มันทำให้ครูนั่งคิดพิจารณาว่า
ประเทศไทยนั้นมีอัตราการตายของเด็กช่วงอายุ 0-17 ปีจากการจมน้ำปีละ 1,642 ราย ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง

#สาเหตุหนึ่งเกิดจากความประมาทของผู้ปกครองที่ชะล่าใจเกินไป
#การจมน้ำตายนั้นป้องกันได้ 
ด้วยการสอนให้ว่ายน้ำให้เป็น และสอนผู้ปกครองให้ไม่ประมาท

พอมองภาพรวมของลักษณะนิสัยคนไทยเกี่ยวกับเรื่องความประมาท
ก็มีข้อเท็จจริงบางอย่าง
ที่บอกอะไรเกี่ยวกับตัวเราเอง
เช่น
-คนไทยจำนวนมากเวลาขับรถ ไม่เคยคาดเข็มขัดนิรภัย เพิ่งมาคาดกันจริงจังเมื่อไม่กี่ปีก่อน
-คนไทยจำนวนมากขับรถเร็วเกินกำหนด จนทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงมากมาย เพิ่งมาจริงจังกันหลังจากที่มีคนตายเพราะเหตุนี้เยอะมาก
-คนไทยจำนวนมากเวลาขึ้นเครื่องบิน เขาบอกให้ปิดโทรศัพท์มือถือหรือเปลี่ยนเป็น flight mode ก็ไม่ปฏิบัติตาม
-ผู้ขับขี่มอร์เตอร์ไซค์จำนวนมาก ไม่ใส่หมวกกันน็อค เพราะเห็นว่าขับขี่ใกล้บ้าน
-คนข้ามถนนบนทางม้าลาย แต่เราขับรถไม่สนใจดู เราก็ชนเขาตาย
หรือหลายๆเหตุร้ายที่เกิดขึ้น
ล้วนเกิดจากความประมาททั้งสิ้น
เช่นเที่ยวบินหนึ่งของสายการบินหนึ่ง ช่างลืมเปลี่ยนน็อตเพียงหนึ่งตัวที่หน้าต่างนักบิน ผลคือทำให้กระจกหลุดขณะบินอยู่ส่งผลให้นักบินหลุดออกจากห้องนักบินและเกิดเหตุต้องลงฉุกเฉิน

ต้องขอบคุณภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น
เช่นมีความเข้มงวดในการให้ประชาชนปฏิบัติตามกฏจราจร
ส่วนภาคเอกชนหรือหน่วยเล็กๆอย่างเราก็ควรมีการปรับตัว
สร้างจิตสำนึกในผู้ใหญ่และเด็ก
ให้คำนึงถึงความปลอดภัย
และจริงจังกับเรื่องความปลอดภัย
เพื่อที่ว่า
#เราจะได้เปลี่ยนลักษณะนิสัยของเรา
#ให้รู้ว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ประนีประนอมไม่ได้

ต้องขอบคุณเด็กๆลูกศิษย์หลายๆคนที่
หลายๆครั้งที่ครูยังไม่ทันได้เอาเท้าเกี่ยวขอบสระ เขารีบสอนครูว่า
ครูขา ครูต้อง curl your toes ก่อนกระโดดนะคะ
อย่างน้อยสังคมไทยในยุคที่เขาเป็นผู้ใหญ่ก็น่าจะมีความปลอดภัยมากกว่านี้
มีความประมาทน้อยกว่านี้
และคงลดจำนวนเหตุเศร้าที่ทำให้ต้องพูดว่า
"ไม่น่าเกิดขึ้นเลย"|

 

26.jpg
bottom of page