#ตอนเด็กๆครูโกหกพ่อแม่ว่าทำการบ้านเสร็จแล้ว
โดยเฉพาะวิชาเลข
พอไปถึงโรงเรียน ก็ส่งการบ้านเลขที่ไม่มีคำตอบ
ผลก็คือโดนตีหน้าชั้นทุกวันในวิชาเลข
มีเพื่อนโดนตีด้วยกันทุกวันประมาณสิบกว่าคน
มารู้ทีหลังว่า
พวกเราสิบกว่าคนไม่อาจเข็นสมองให้ไปต่อด้านการคำนวณได้
แต่ด้านภาษาและวิชาอื่นเรากลับเจริญรุ่ง
มารู้เอายุคนี้ว่าเป็นเพราะความถนัดของเด็กต่างกัน
และมารู้ตัวว่าที่เราโกหกพ่อแม่เพราะ เรากลัวพ่อแม่จะว่าเราดุเราซ้ำอีก
.......
ก็หนูทำไม่ได้จริงๆ...
ถ้าไม่เอาเหตุผลทางศาสนาและศีลธรรมมาเป็นประเด็น
การโกหก เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการเด็ก
เป็นกลไกการป้องกันตัวเอง และเป็นทางหนึ่งในการแก้ปัญหา
นักจิตวิทยาบอกว่า เด็กๆพัฒนาจริยธรรมไปตามกาลเวลา
และเรียนรู้จากการทำผิดและทำถูก
แต่ถ้าพ่อแม่ปล่อยไปตามกาลเวลา
ไม่บอกว่านี่คือผิด นี่คือถูก
นั่นแหละคือปัญหา
ที่จะทำให้ลูกขาดจริยธรรม
และผิดศีลในทางพุทธศาสนาด้วย
เด็กเล็กไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างเรื่องจริงและเรื่องที่แต่งขึ้น
และมักต่อเติมหรือสร้างเรื่องขึ้น
ด้วยเหตุผลมากมาย
ที่เราควรศึกษาเข้าไปในหัวใจในสมองน้อยๆของลูกว่า
ในโลกแห่งการโกหกของลูก
มีเหตุและผลอยู่ในนั้น
เพียงแต่ว่า
การโกหกแม้เพียงเล็กน้อยของลูก
อาจนำเขาไปสู่ ผู้ใหญ่ที่ไม่ซื่อสัตย์
ผู้ใหญ่ที่ขี้โกหกและไม่จริงใจ
นี่คือ 8 เหตุผลเบื้องหลังเด็กๆที่เลือกที่จะไม่พูดความจริงค่ะ
1.#โกหกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ
เด็กๆโกหกพ่อแม่เพราะไม่อยากทำอะไรบางอย่าง
เช่น ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากทำการบ้าน ไม่อยากแปรงฟัน
ถ้าพ่อแม่ถามว่าแปรงฟันหรือยัง
ลูกตอบว่า แปรงแล้ว
พ่อแม่ก็จะไม่เซ้าซี้ถามอีก
หรือตัวอย่างจากครูเองที่ตอนเด็กๆโกหกว่าทำการบ้านแล้ว
ทั้งที่ไม่ได้ทำเลย
เพราะไม่เข้าใจวิชาเลข
เลยไม่อยากทำ
คิดแค่ว่าบอกแม่ดีกว่าว่าทำแล้ว แม่จะได้ไม่ยุ่งกับเรา
2.#โกหกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอระเบิดลงจากแม่
ทั้งๆที่การกระทำนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย
ถ้าลูกพลาดอะไรนิดหน่อย
แต่แม่มีปฏิกริยาต่อว่าหรือลงโทษรุนแรง
ครั้งต่อไปเมื่อลูกทำพลาดเล็กน้อยอีก
ลูกเกิดการเรียนรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
และเลือกที่จะโกหกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอแม่ระเบิดลง
ถ้าลูกทำน้ำส้มหก ทำของพัง ในเวลาที่เราไม่เห็น
ถ้าเราถามว่าใครทำ แล้วลูกโกหกว่า เขาไม่ได้ทำ
นั่นอาจเป็นเพราะปฏิกริยาตอบกลับจากเราในอดีต
ตะคอก! โมโห! หงุดหงิด! เซ็ง!
เขาจึงโกหกค่ะ
3.#โกหกเพราะไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวัง
เด็กๆโกหกเพราะไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวัง
หรือโกหกเพราะไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า
ก่อนที่พ่อแม่จะทำโทษลูก ใช้เสียงแข็ง หรือตราหน้าว่าลูกเป็นเด็กดื้อ
ลองหยุดคิดถึงเหตุผลที่ทำให้ลูกโกหก
พ่อแม่ที่คาดหวังสูงเกินไป
ว่าลูกต้องเก่งทุกเรื่อง
ได้เกรดเอทุกวิชา
ดีพร้อมทุกด้าน
เราเป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ
เพียงแค่คุณคาดหวังสูงในบางเรื่อง
ก็อาจส่งผลให้ลูกมีความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำลง
หรือมองไม่เห็นค่าของตัวเอง
ลองทำบ้านให้น่าอยู่ทั้งทางกายและใจ
เมื่อลูกสบายใจ เขามีอะไรเขาก็จะไม่ปิดบัง
4.#โกหกเพราะไม่อยากโดนทำโทษ
เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆจะโกหก เพราะไม่อยากโดนทำโทษ
ถ้ามันเป็นการโกหกเล็กน้อย
อาจเพราะลูกกลัวความรุนแรงจากพ่อแม่
ไม่ว่าจะเป็นตะคอก ดูถูก เข้มงวด หรือตี
บทลงโทษที่บ้านคุณเป็นอย่างไร
สอดคล้องกับการกระทำนั้นหรือเปล่า
ผิดเล็กน้อย ลงโทษเกินเหตุหรือเปล่า
ครูเคยเห็นเต็มตาที่เกาหลี
ในร้านอาหาร
พ่อคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้าน
ให้ลูกทำการบ้าน แล้วอยู่ๆก็ลุกขึ้นมา
ตีๆๆลูกชายวัย 7-8 ขวบ แล้วบิดหูลูก
จากนั้นก็ยกลูกขึ้นจนตัวลอยด้วยมือที่บิดหูลูกอยู่
เด็กชายคนนั้นน่าสงสารที่สุด
แม่เด็กเองก็อยู่ตรงนั้น
5.#โกหกเพราะความเข้มงวดเกินเหตุในบ้าน
ที่บ้านครู ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กจะได้รับการทดลองภายใต้การดูแลของพ่อแม่เสมอ
ครั้งหนึ่งตอนเด็กๆ ครูอยากรู้ว่าเหล้ารสชาดอย่างไร พ่อก็ลองให้ดื่ม
แค่อึกสองอึก เป็นต้น
จากนั้นพวกเราก็หมดความสนใจในเหล้า
เพราะรู้แล้วว่ามันไม่อร่อย
กฏที่เข้มงวดเกินไปใช่ว่าจะได้ผลกับเด็กๆ
เด็กบางคนเมื่อรู้สึกขาดอิสรภาพที่เหมาะสมกับวัย
การโกหกและการสร้างเรื่องจะทำให้เด็กๆได้ในสิ่งที่เขาพลาดไป
ครูเองช่วงวัยรุ่นไม่เคยต้องโกหกหรือหนีไปเที่ยวกลางคืน
เพราะขอพ่อ พ่อก็อนุญาตให้ไปเที่ยวกลางคืนตอนปี 1
เราสนุกสนานกับเพื่อน
อย่างมีขอบเขต และเอาตัวรอดเป็น
เพราะเด็กๆรู้สึกถูกจำกัดขอบเขต หรือถูกควบคุม
ถ้าคุณค้นพบว่า
ลูกๆโกหกเพราะอยากได้อิสรภาพมากขึ้น
แสดงว่าอาจถึงเวลาที่พ่อแม่ควรยืดหยุ่นขึ้นบ้าง
(แต่ยังอยู่ภายในขอบเขตนะคะ)
6.#โกหกเพราะอยากเป็นที่ยอมรับ
เมื่อเริ่มโต เด็กๆอาจโกหกเพื่อให้เข้ากับหมู่เพื่อนได้มากขึ้น
ได้รับการยอมรับจากเพื่อน
เพื่อที่ตัวเองจะได้ถูกมองว่าเท่ห์ ว่า cool
ในข้อนี้เป็นตัวบ่งว่าลูกอาจมีประเด็นเรื่องความมั่นใจในตัวเอง
หรือขาดทักษะการผูกมิตร เป็นต้น
7.#โกหกเพราะพ่อแม่ก็เป็นเหมือนกัน
การโกหกหรือปิดบังเพียงเล็กน้อยที่พ่อแม่ทำแล้วลูกได้รับรู้
เช่น แม่ไปช็อปปิ้งแล้วซ่อนของไว้ไม่ให้พ่อรู้
หรือพ่อซื้อของแล้วแอบไว้ไม่ให้แม่รู้
เมื่อเด็กๆรับทราบการปิดบังเช่นนี้
เขาจะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ ไม่เสียหาย
การโกหก ปิดบัง พ่อแม่ก็ทำ
งั้นหนูก็ทำได้
พฤติกรรมของเราคือตัวส่งเสริมการไม่ซื่อสัตย์ของลูก
8.#โกหกเป็นอาการป่วยทางจิต
การโกหกบ่อยๆจนเป็นกิจวัตรสามารถเป็นตัวบ่งชี้อาการทางจิต
ที่จำเป็นต้องพบเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอาที่ดีมีคุณภาพ
ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เคยทำผิดพลาดเลยในการเลี้ยงดูลูกหลาน
แต่เราจะผิดพลาดอย่างมาก
ถ้าเราไม่คิดจะพัฒนาทักษะการเป็นพ่อแม่
การเป็นปู่ย่าตายายลุงป้าน้าอาก็สำคัญ
ต้องคอยหมั่นหาความรู้ใส่ตัว
จะได้รู้หลักที่ดีในการช่วยเลี้ยงหลาน
ดังเช่นเรื่องการโกหกของเด็กๆ
ใครจะไปนึกว่าเราผู้ใหญ่นี่แหละ
ที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกไม่พูดความจริง
ปิดบังความจริง
โกหก
และสร้างเรื่องมาหลอกเรา
ขอบคุณเนื้อหาจาก Getting to the Root Cause Why Your Child is Lying Before You Respond www.thepragmaticparent.com
ขอบคุณภาพจาก www.pixabay.com