top of page
16.jpg

#ในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง
#ครูและน้องสาวได้ยินบทสนทนาของพ่อแม่วัยหนุ่มสาวคู่หนึ่ง
ที่เข็นรถเข็นมีทารกน้อยอยู่ในนั้นด้วย
พ่อแม่หนุ่มสาวคู่นี้ดูภายนอกดูดี ช่างแต่งตัวทั้งคู่
แต่คำพูดจากฝ่ายชายที่พูดกับฝ่ายหญิงทำให้ครูกับน้องสาวต้องหันมามองหน้ากัน
ผู้ชายคนนี้พูดกับภรรยาด้วยสีหน้าหงุดหงิดว่า
"นี่มึงลากกูออกมาเพื่อให้จ่ายเงินซื้อของเยอะอย่างนี้หรือวะ"
................................................
หรือพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมาแต่ไหนแต่ไร
จึงมึงมาพาโวยได้
หรือนี่คือภาษาประจำครอบครัวเขาที่ถือเป็นเรื่องปกติ
ไม่น่าจะใช่
เพราะน้องผู้หญิงหน้าเจื่อนลง
...............................................
นี่เป็นเรื่องน่าคิดของชีวืตคู่
ถึงแม้ก่อนแต่งงานหรืออยู่กินกัน
คุณจะสนิทสนมกันมากแค่ไหน
นั่นไม่ได้หมายความว่าความเกรงใจจะต้องลดลง
ความรักนำพาคนสองคนมารักและแต่งงาน
แต่จะอยู่รอดตลอดฝั่งหรือไม่
ส่วนสำคัญคือ 
การเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน
...............................................
นักจิตวิทยาให้คำจำกัดความคำว่า
การเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่างง่ายๆว่า
คือการปฏิบัติต่อคู่ชีวิตหรือสามีภรรยาหรือแฟนของเรา
ด้วยการคิดพิจารณาก่อน "พูด" หรือ "ทำ" อะไรลงไปต่อเธอหรือเขา
ไม่ดูถูกหรือยกตนข่ม
ไม่พูดจาเสียดสี
ไม่เพิกเฉย
และเคารพความคิดเห็น ความต้องการ
และมีความเกรงอกเกรงใจกัน
...................................................
#การเคารพซึ่งกันและกันในชีวิตคู่เกิดขึ้นได้
เพราะเราให้คุณค่าต่อความรู้สึก
และความคิดเห็นของคู่เรา
เราปฏิบัติต่อเขา
เหมือนที่เราอยากได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน

#การจางหายไปของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
นั้นเป็นเพราะความเครียดและความกดดันในชีวิต
ในยามที่เรามีเรื่องต้องคิด มีปัญหากวนใจ
เรามักตกอยู่ในห้วงอารมณ์แง่ลบ
ขุ่นเคืองง่าย
เราจึง"เท"ความหงุดหงิดออกมาใส่คู่ของเรา
สิ่งนี้สร้างวงจรอุบาทว์ ให้อีกฝ่ายแรงกลับมา
แล้วเราก็แรงกลับไป
...................................
อีกแง่มุมหนึ่งคือ
เมื่อนิสัยและความคิดที่แตกต่างกัน
ทำให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่อาจจัดการได้
ความโกรธและความเบื่อหน่ายจึงเกิดขึ้น
..................................
นักจิตวิทยามีวิธีมาแนะนำค่ะ
คนเราปกติใครทำไม่ดีใส่
เรามักทำอย่างเดียวกันกลับไป
อีกฝ่ายหนึ่งหยาบคายเท่าไหร่
อีกฝ่ายแรงกลับเท่านั้น
ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายมากกว่านี้
เราควรปรับดังนี้ค่ะ

#เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองก่อน
จับตาดูตัวเองทั้งความคิด การกระทำ คำพูด
พิจารณาว่าเราตั้งใจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ดังนั้นเราจะใช้สติ
ก่อนที่จะแสดงอะไรออกไป

#ไม่จับผิดพฤติกรรมของเขาหรือเธอ
แม้ใจเราจะมีแนวโน้มจ้องจับผิดเขาหรือเธอมาตลอด
ให้เราหันมาดูตัวเอง
และงดจับผิดคู่ของเราอย่างเข้มงวด

#อดทนยอมรับและชื่นชมในความแตกต่างของคู่ชีวิต
นักจิตวิทยาบอกว่า
ก่อนแต่งงานหรือใช้ชีวิตด้วยกัน
เรารู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นอย่างไร
คนส่วนใหญ่มักไม่เปลี่ยน
เขามักเป็นเช่นนั้น
ปัญหาคลาสสิคของชีวิตคู่คือ
เมื่อเราแต่งงานหรือลงเอยกัน
เรามักคิดจะเปลี่ยนแปลงคู่ของเราเสมอ
.........................................
ก่อนหน้านั้น เขาเป็นเช่นไร
เขาก็เป็นเช่นนั้น
คำแนะนำสุดท้ายคือ
เมื่อลองทำสองข้อแรกแล้วไม่ดีขึ้น
ให้พิจารณาข้อสุดท้ายที่เริ่มด้วย
ให้อดทนต่อความแตกต่างของเขา
ตามด้วย
ให้ยอมรับความแตกต่างของเขา
ตามด้วย
ให้ชึ่นชมความแตกต่างของเขา
.............................................
คงเพราะการให้เกียรติกัน เกรงอกเกรงใจกันมันได้จางหายไป
คำพูดกูมึงจึงออกมาจากปากคุณพ่อคนนี้
มีเพียงน้องผู้หญิงคนนี้ที่รู้ดีที่สุด
เธอคงกำลังเลือกทำข้อสุดท้าย
คือการเลือกที่จะให้เกียรติเขาก่อน
ด้วยการไม่พูดจารุนแรงกลับไป
เธอคงกำลังอดทนและกำลังยอมรับ
ความแตกต่างของเขา
เราได้แต่หว้งว่า
เขาและเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ดี
มีชีวิตครอบครัวที่แข็งแรง
#เพราะเด็กตัวเล็กๆในรถเข็นคันนั้นก็คงหวังเช่นนั้นเหมือนกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก www.centersforfamilychange.com
Re-establishing Respect:The Key to Successful Relationship repair
ขอบคุณภาพจาก www.pixabay.com

 

bottom of page