ตอนเป็นเด็กอนุบาล 1 น่าจะสามสี่ขวบได้
เมื่อเริ่มหัดอ่านเขียน ก.ไก่ ข.ไข่
ครูยังจำช่วงเวลาขณะนั้นไม่มีวันลืม
แม้มันจะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว
ครูคือเด็กตัวเล็กที่นั่งที่โต๊ะเรียนเตี้ยๆหันหน้าชนกับเพื่อน
เด็กที่กำลังตั้งใจเรียน
หยิบดินสอขึ้นมาลากเส้นบนกระดาษ
ทันใดนั้นครูประจำชั้นก็เดินมาตีมือครู
ดึงดินสออกจากมือ
แล้วพูดด้วยคำพูดที่คนเป็นครูไม่ควรพูด
"ใครใช้ให้ใช้มือซ้ายเขียนหนังสือ หะ!"
จากนั้นครูท่านนั้นก็ตีมือซ้ายครูหนึ่งเผียะ
จับดินสอยัดใส่มือขวา
ด้วยท่าทางดุ
แล้วเดินจากไป
สิ่งที่ครูถูกกระทำในวันนั้น
ยังแจ่มชัดมาถึงทุกวันนี้
ครูไม่ได้ร้องไห้ เพราะเป็นเด็กเงียบ
แค่เปลี่ยนเป็นใช้มือขวาลากเส้นต่อไป
แต่ในใจของเด็กสามสี่ขวบนั้นเสียใจมาก
และหมดความมั่นใจ
รวมทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมจึงใช้มือซ้ายไม่ได้
ตอนนั้นยังคิดเลยว่าทำไมครูไม่บอกหนูดีดี
เราพ่อแม่ครูสามารถสอนเด็กๆให้รู้จักใช้คำพูด
ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
คำพูดที่ปลอบประโลม
คำพูดดีๆที่สร้างความสุขให้ผู้อื่น
มีคุณครูผู้ชาญฉลาดคนหนึ่งชื่อครูโรซี่ ดัตตั้น
ใช้ประสบการณ์ในการทำงานกับเด็กมากว่า 15 ปี
สร้างกิจกรรมการสอนที่ทำให้เด็กรู้จักจัดการกับอารมณ์ตัวเอง
ด้วยการทำการทดลองที่น่าสนใจมากกิจกรรมหนึ่ง
วันหนึ่งครูโรซี่แสดงให้เด็กๆเห็นผลแอ็ปเปิ้ล 2 ลูก
(ที่ครูแอบเอาลูกหนึ่งทุบกับพื้นโดยที่เด็กๆไม่รู้)
ภายนอกของแอ็ปเปิ้ลทั้งสองลูกนั้นไม่ต่างกัน
เปลือกแดงเหมือนกัน
ผลขนาดเท่ากัน และดูน่ากินทั้งคู่
จากนั้นครูหยิบแอ็ปเปิ้ลลูกที่หล่นพื้น
แล้วบอกนักเรียนว่า เธอเกลียดเเอ็ปเปิ้ลลูกนี้แค่ไหน
ครูโรซี่บอกเด็กๆว่า เธอว่ามันดูน่าเกลียด
สีก็ไม่สวย ก้านก็สั้นเกิน
ครูโรซี่มีเหตุผลที่ทำแบบนี้
เด็กๆหลายคนทำหน้าเหมือนครูบ้าไปแล้วหรือเปล่า
จากนั้นครูก็ส่งลูกแอ็ปเปิ้ลลูกนี้ไปทั่วห้อง
เด็กแต่ละคนต้องพูดประโยคที่เป็นแง่ลบใส่แอ็ปเปิ้ลลูกนี้
"แกเป็นแอ็ปเปิ้ลที่น่าเกลียดมาก"
"แกไม่ควรเกิดมาเป็นแอ็ปเปิ้ลเลย"
"แกต้องมีหนอนอยู่ในนั้นแน่ๆ"
ในขณะที่ทุกคนทยอยต่อว่าแอ็ปเปิ้ลลูกนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งครูและลูกศิษย์ต่างเริ่มรู้สึกสงสารและเวทนาแอ็ปเปิ้ลลูกนี้มากๆ
จากนั้นครูโรซี่ก็เอาแอ็ปเปิ้ลอีกลูกที่สดใหม่ออกมา
แล้วพูดจาด้วยคำพูดที่อ่อนหวานกับมัน
"เธอเป็นเเอ็ปเปิ้ลที่น่ารักมาก"
"ผิวของเธอสวยจังเลย"
"สีของเธอแดงดีจังเลย"
แล้วครูโรซี่ก็เอาแอ็ปเปิ้ลทั้งสองลูกออกมาให้นักเรียนดูพร้อมกัน
แล้วพูดถึงความเหมือนความต่างของผลไม้สองลูกนี้
เด็กทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า
ดูภายนอกมันไม่ต่างกันเลย
สิ่งที่ต่างคือลูกหนึ่งเจอแต่คำด่าคำตำหนิ
อีกลูกหนึ่งเจอแต่คำพูดดีๆ
ครูใช้มีดผ่าครึ่งแอ็ปเปิ้ลทั้งสองลูกให้เด็กๆดู
แอ็ปเปิ้ลที่ถูกด่าว่า แม้จะดูปกติภายนอก
แต่กลับมีผิวช้ำและเละอยู่ข้างใน
เด็กๆในชั้นเรียนครูโรซี่เกิดการเชื่อมโยงว่า
คำพูดแง่ลบมีผลให้ภายในบอบช้ำเจ็บปวด
โดยที่เราดูจากภายนอกไม่ออกเลย
เมื่อคนเราโดยเฉพาะเด็กๆถูกทำร้ายด้วยคำพูด
พวกเขาเสียใจและเจ็บปวดอยู่ข้างใน
หลายๆครั้งพวกเขาเลือกที่จะไม่แสดงออก
ถ้าเราไม่ผ่าแอ็ปเปิ้ล
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้างในบอบช้ำแค่ไหน
เราจะไม่ทำกับใคร
เหมือนนักเรียนทำกับแอ็ปเปิ้ลลูกที่น่าสงสารลูกนั้น
เพราะเรารู้ว่าคำพูดนั้นมีพลัง
เป็นได้ทั้งพลังที่ดีและพลังร้าย
ทุกครั้งที่เด็กๆถูกด่าว่าด้วยคำพูดที่ไม่ดี
มีแต่จะสร้างเขาให้เป็นผู้ใหญ่ที่ไร้เมตตาและชอบทำร้ายจิตใจคนให้เพิ่มขึ้นในสังคม
อย่าลืมสำรวจลูกหลานของเรานะคะ
ว่าเขาเป็นแอ็ปเปิ้ลที่สุกใสทั้งข้างนอกและข้างในหรือไม่
ถ้าเขาบอบช้ำข้างใน
เรายังมีเวลาสร้างให้มันกลับมาสดและใหม่ได้ดังเดิมค่ะ
ขอบคุณภาพจาก pixabay.com
ขอบคุณเนื้อหาจาก Here's How A Teacher Uses Apples To Show How Words Can Hurt www.powerofpositivity.com